วันพุธที่ 3 พฤษภาคม พ.ศ. 2560

ม็อกเทล





https://www.youtube.com/watch?v=TzWdss2d9pI


สูตรม็อกเทลผลไม้

1. น้ำเลมอนเนด (Lemonade)

          เริ่มต้นเมนูม็อกเทลคลายร้อนสูตรแรกกันด้วยน้ำเลมอนเนดสูตรจากคุณ RinS CookBook รสชาติเปรี้ยวอมหวาน ดื่มชื่นใจดับร้อน ทั้งนี้สามารถใช้มะนาวแทนเลมอนก็ได้นะคะ แต่กลิ่นอาจไม่หอมเท่า ใครจะเอาไปเสิร์ฟในงานปาร์ตี้ก็ได้นะคะ เป็นสูตรเบสิกดื่มง่าย ๆ ค่ะ  

ส่วนผสม น้ำเลมอนเนด

          • น้ำเปล่า 1 ถ้วย (สำหรับทำน้ำเชื่อม)
          • น้ำตาลทราย 3/4 ถ้วย ถึง 1 ถ้วย
          • เลมอน 6 ลูก (ถ้าไม่มีใช้มะนาวเขียวแทนได้ แต่จะเรียกว่า Limeade แทน)
          • น้ำเย็นจัด 3 ถ้วย
          • น้ำแข็ง (ปริมาณตามชอบ)
          • เลมอน (ฝานเป็นแว่น)
          • ใบสะระแหน่

วิธีทำน้ำเลมอนเนด

          1. เริ่มจากการทำน้ำเชื่อมก่อน โดยใส่น้ำเปล่าและน้ำตาลทรายลงในหม้อคนให้เข้ากัน นำขึ้นตั้งไฟกลางจนน้ำเชื่อมเดือด พอเดือด ปิดไฟ พักทิ้งไว้จนน้ำเชื่อมเย็น
          2. ใช้มือคลึงลูกเลมอน (บางสูตรจะนำไปแช่น้ำอุ่นเพื่อให้น้ำมะนาวออกมาจากมะนาวให้ได้มากที่สุด) ผ่าครึ่งเลมอนแล้วคั้นให้ได้น้ำ 1 ถ้วย (ควรใส่ถุงมือในขณะที่คั้นด้วย ป้องกันไม่ให้มะนาวกัดมือ)
          3. นำน้ำเลมอนที่คั้นแล้วไปกรองผ่านกระชอนใส่ลงในน้ำเย็นจัด นำเม็ดออกให้หมด ใส่น้ำเชื่อมที่เย็นแล้วลงไป คนผสมให้เข้ากัน แล้วเติมน้ำแข็งลงไป คนให้เข้ากันอีกครั้ง
          4. ใส่เลมอนฝานและใบสะระแหน่ลงไปคนผสมให้เข้ากัน เทใส่แก้ว พร้อมดื่ม



      

สูตรม็อกเทลผลไม้

2. น้ำสตรอว์เบอร์รีเลมอนเนด

          น้ำเลมอนเนดสุดคลาสสิกทุกงานปาร์ตี้มีเสิร์ฟเสมอ ถ้าต้องการเพิ่มความแปลกใหม่ลองใส่ซอสสตรอว์เบอร์รีลงไปผสมดูสิคะ กลายเป็นน้ำสตรอว์เบอร์รีเลมอนเนด (Strawberry Lemonade) ขอแนะนำสูตรจากคุณ RinS CookBook ก่อนดื่มก็คนผสมให้เข้ากัน ว้าว ! สีสวย ดูเลอค่ามาก ๆ เลยค่ะ 

ส่วนผสม น้ำสตรอว์เบอร์รีเลมอนเนด


          • สตรอว์เบอร์รีสด (สไลซ์บาง) 1 ถ้วย + 1/2 ถ้วย
          • น้ำตาลทราย 1/2 ถ้วย
          • น้ำเปล่า 2 ช้อนโต๊ะ
          • น้ำมะนาวคั้น 2 ช้อนโต๊ะ
          • น้ำเลมอนเนด 8 ออนซ์ [ดูวิธีทำน้ำเลมอนเนด]
          • น้ำแข็ง

วิธีทำน้ำสตรอว์เบอร์รีเลมอนเนด

          1. ใส่สตรอว์เบอร์รีสด น้ำตาลทราย น้ำเปล่า และน้ำมะนาวลงในหม้อ คนผสมให้เข้ากันจนน้ำตาลทรายละลาย นำขึ้นตั้งไฟปานกลางเคี่ยวจนเดือดแล้วลดเป็นไฟอ่อนสุก เคี่ยวต่ออีก 5-7 นาที
          2. พอครบเวลาแล้ว ยกลงจากเตา พักทิ้งไว้จนเย็น (สามารถนำส่วนผสมทั้งหมดไปปั่นให้เป็นเนื้อเดียวกันได้)
          3. แต่งแก้วให้สวยงามก่อนเสิร์ฟโดยนำมะนาวมาทารอบ ๆ ปากแก้ว จากนั้นคว่ำแก้วลงในน้ำตาลทราย เพื่อให้น้ำตาลติดที่รอบ ๆ ปากแก้ว
          4. ตักซอสสตรอว์เบอร์รีที่เย็นแล้วลงในแก้ว ตามด้วยน้ำแข็ง สุดท้ายเทน้ำเลมอนเนดลงไป แต่งด้วยเลมอนฝานเป็นแว่น ๆ พร้อมเสิร์ฟ (หรือใครจะนำส่วนผสมทั้งหมดใส่ลงไปคนผสมกันในเหยือกก่อนนำมาเทใส่แก้วก็ได้)







สูตรม็อกเทลผลไม้



 3.ม็อกเทลฮอต สไปซ์ไซเดอร์

          แอปเปิลมากประโยชน์ [คลิกอ่าน มหัศจรรย์แห่งแอปเปิลต่างสี ประโยชน์ก็ดีต่างกันนะ] กินเป็นผลไม้คลายร้อนก็ได้ หรือถ้าจัดปาร์ตี้คืนนี้ขอแนะนำให้แบ่งแอปเปิลบางส่วนออกมาทำเมนูม็อกเทลฮอต สไปซ์ไซเดอร์เลยค่ะ สูตรนี้ใส่เครื่องเทศหลากหลาย ถ้าเอาไปแช่เย็น หรือใส่น้ำแข็งก็ชื่นใจ เสิร์ฟได้ทุกเพศทุกวัยเลย 

ส่วนผสม ม็อกเทลฮอต สไปซ์ไซเดอร์

          • น้ำแอปเปิลไซเดอร์ (หรือน้ำแอปเปิล) 8 ถ้วย
          • น้ำตาลทรายแดง 1/4 ถ้วย
          • อบเชย 6 แท่ง
          • เครื่องเทศออลสไปซ์  (Allspice) 1 ช้อนชา
          • ดอกกานพลูแห้ง 1 ช้อนชา
          • แอปเปิลหั่นสไลซ์ (ตกแต่ง)

วิธีทำม็อกเทลฮอต สไปซ์ไซเดอร์

           1. เคี่ยวน้ำแอปเปิลไซเดอร์กับน้ำตาลทรายแดง ระหว่างนี้นำถุงเครื่องเทศมาใส่อบเชย เครื่องเทศออลสไปซ์ และดอกกานพลูแห้งลงไป มัดปากถุงให้แน่น ใส่ลงไปในกระทะที่เคี่ยวน้ำแอปเปิล
           2. พอเคี่ยวได้ประมาณ 10 นาที นำถุงเครื่องเทศออกมา เทส่วนผสมม็อกเทลฮอต สไปซ์ไซเดอร์ลงในภาชนะ ตกแต่งด้วยแอปเปิล พร้อมเสิร์ฟ



ประเภทของแก้วคอกเทล

    


    แก้วค็อกเทลที่เห็นๆก็มีอยู่หลายแบบ ส่วนมากก็จะเน้นรูปทรงที่สวยงาม  เน้นเนื้อแก้วที่ใส ดี และ เป็นประกาย  ถ้าจะแบ่งเป็น ก็แบ่งได้ 5 ประเภทด้วยกัน คือ


1. ทัมเบลอ ( Tumbler ) หรือ แก้วทรงกระบอกธรรมดา เป็นแก้วไม่มีก้าน หรือ เชิง รูปร่างเหมือนกระบอก ข้างแก้วอาจจะตรง ผายออก คุ้มเข้า หรือ คอดก็ได้ มีขนาดและความสูงต่างๆ กัน มีอยู่หลายขนาดด้วยกัน แต่ละขนาดจะมีชื่อเรียกเฉพาะอีกด้วย















ช็อตกลาส ( Short Glass ) ความจุ 2 ออนซ์ ใช้ใส่ค็อกเทลแบบช็อต หรือ เพรียว




โอลด์แฟชั่น (Old Fashioned) หรือ ร๊อคกลาส (Rock Glass) ความจุ 7.1/4ออนซ์ ใช้ใส่ค็อกเทลแบบ ออนซ์ เดอะ ร็อค





 2. Stemmed glass แก้วก้าน   แก้วประเภทนี้ นอกจากจะมีส่วนตัวแก้วที่ใช้ใส่เหล้าแล้ว ยังมีก้านยาวเหมือนก้านดอกไม้ สุดก้านก็จะมีเชิงเป็นแผ่นกลม นูนเล็กน้อย เพื่อให้ตั้งได้ มีรูปร่างหลายแบบด้วยกัน เอให้ถูกกับวัตถุประสงค์ของการใช้ แต่ละรูปร่างก็กำหนดไว้เพื่อใช้สำหรับเหล้าแต่ละชนิดไป ไวน์ส่วนมากนิยมเสิร์ฟในแก้วก้าน มีรูปร่างต่างๆ กัน ดังนี้


ซาวกลาส ( Sour glass ) ความจุ 5  & frac12; ออนซ์  มีแบบก้านสั้น และ ก้านยาว ใช้ใส่ค็อกเทลตระกูล Sour



มาร์การิต้า กลาส ( Margarita glass ) ความจุ 5 ออนซ์ ใช้ใส่ค็อกเทลตระกูล Margarita และแก้วที่มีขอบตกแต่งด้วยเกลือ หรือ น้ำตาลทราย

3. Footed Glass  หรือ  แก้วเชิง     มีลักษณะคล้ายๆกันกับแก้วก้าน เพียบแต่ก้านนั้นสั้น เพราะส่วนก้านมีความประสงค์เพื่อเป็นตัวเชื่อมส่วนตัวแก้วกับเชิงที่ตั้ง เพื่อความสวยงามของแก้วเท่านั้น มิได้ทำไว้เพื่อให้จับหรือถือแก้วตรงส่วนนั้น เหล้าผสมหรือค๊อกเทลส่วนใหญ่นิยมเสิร์ฟในแก้วเชิงนี้พอๆ กับเสิร์ฟในแก้วก้าน เช่น


เฮอริเคน กลาส ( Herricane glass )ความจุ 22 ออนซ์ ใช้ใส่ค็อกเทลทั่วไปที่เน้นปริมาณ



4. เหยือกเบียร์ ( Mug )    รูปร่างคล้ายกับแก้วก้านทรงกระบอกส่วนใหญ่จะหน้าและมีหูคล้ายถ้วยกาแฟ มีความจุระหว่าง 10 – 16 ออนซ์



5. แก้วแฟนซี    หมายถึง แก้ว หรือ เหยือก ที่ทำรูปร่างแตกต่างจากแก้วที่กล่าวถึงแล้ว เพื่อใช้เฉพาะแห่ง อาจทำจากแก้ว หรือ เครื่องเคลือบดินเผา หรือ อื่นๆ ก็ได้ นอกจากนี้ยังสามารถเสิร์ฟค๊อกเทลบางตำรับในผลของผลไม้บางอย่างด้วย เช่น สัปปะรด / มะพร้าวอ่อน / มะพร้าวแก่ และ แตงโม เป็นต้น